Custom Search By Google

Custom Search

วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2552

มนุษย์ทุกๆคนมีเสรีภาพและมีโอกาสที่จะเจริญก้าวหน้าเท่าเทียมกัน

มนุษย์ทุกๆคนมีเสรีภาพและมีโอกาสที่จะเจริญก้าวหน้าเท่าเทียมกัน




เมื่ออายุ 10 ขวบ ยอร์ชจากครอบครัวคาร์เวอร์ไปเรียนหนังสือ
ที่โรงเรียนสำหรับเด็กนิโกรที่เมืองนีโอโช ในวัยเช่นนี้ ยอร์ชย่อมหวั่น
กลัวบ้างที่ต้องจากบ้านที่อยู่ตั้งแต่เกิด นางคาร์เวอร์ก็เสียใจที่ยอร์ชจะ
ต้องจากไป แต่ก็รู้ว่า เด็กต้องต่สู้ดิ้นรนช่วยเหลือตนเอง จึงได้จัด
เตรียมเสื้อผ้าอาหาร และแนะนำการใช้ชีวิตในอนาคตให้
ยอร์ช วอชิงตัน คาร์เวอร์ ต้องทำงานรับจ้าง เช่น ตัดฟืน กวาดสนาม
รับใช้เบ็ดเตล็ด และพักนอนในยามค่ำคืนที่ยุ้งข้าวเก่าๆ
ในช่วงปิดภาคเรียนก็ทำงานเพื่อหารายได้เป็นค่าเล่าเรียน

เขามีความมุ่งมั่นที่จะเรียนหนังสือ เพื่อจะได้อ่านหนังสือที่มีค่าเล่มหนึ่ง
ซึ่งเฮอร์แมน เยเกอร์ ได้มอบให้

วันหนึ่งจอห์น มาร์ติน ผู้จัดการโรงโม่แป้งได้มาพบยอร์ช ที่ยุ้งข้าว
จึงได้รับยอร์ชเข้าไปทำงานอยู่ในบ้านด้วย เด็กน้อยทำงานทุกอย่าง
ด้วยความขยันขันแข็ง กระตือรือร้น เต็มใจ ตั้งแต่ชักผ้า
ล้างถ้วยชาม ทำอาหาร และดูแลสนามหญ้า

จอห์น มาร์ติน และภรรยา สอนยอร์ช หลายอย่าง สอนทั้งการงาน การคบคน
ความรู้ทั่วไป ตั้งคำถามให้ยอร์ชตอบ และฝึกตั้งคำถาม มาร์ตินคิดว่ายอร์ชควร
จะได้พบปะผู้คนบ้าง จึงแนะนำให้ยอร์ชไปโบสถ์ เขาบอกยอร์ชว่าโบสถ์เป็นที่ประทับ
ของพระเจ้า แต่เด็กน้อยผู้นี้ได้จดจำมาจากคำภีร์ที่นายคาร์เวอร์อ่านว่า
" พื้นแผ่นดินในโลกเป็นของพระเจ้า" จึงได้ตอบทาร์ตินว่า
"พระเจ้ามิได้ประทับอยู่แห่งเดียว พระองค์อยู่ทั่วพิภพ "
ยอร์ช วอชิงตัน คาร์เวอร์ มีความเห็นว่า
"นมัสการพระเจ้าในป่าดีกว่าในโบสถ์ "
แต่เขาก็ไปโบสถ์ตามคำแนะนำของมาร์ติน

ยอร์ชสำเร็จจาก ร.ร. มัธยมที่เมืองมินิโปริสในมลรัฐแคนซัส
เขามิได้อยู่ร่วมในการทำพิธีแจกประกาศนียบัตร แต่กลับไปฉลองความสำเร็จกับ
ครอบครัวคาร์เวอร์
ยอร์ชบอกนายและนางคาร์เวอร์ว่า "ผมจะไปเรียนที่วิทยาลัย เพื่อจะอ่านหนังสือ
ทุกๆชนิด และเรียนทุกอย่างที่ครูจะสอนให้ แล้วพระเจ้าจะทรงบอกให้ผมได้ทราบ
ถึงความลึกลับของพระองค์ แล้วก็จะมีงานให้ผมทำในโลกนี้
เพราะสรรพสิ่งทั้งหลายเป็นของพระเจ้า"

นายและนางคาร์เวอร์ส่งยอร์ช วอชิงตัน คาร์เวอร์ ออกเดินทางไปเรียนต่อด้วยความรู้สึก
ภูมิใจในเด็กตัวเล็กๆ ขี้โรค ที่พวกเขาดูแลมาตั้งแต่เด็กๆ

ยอร์ชลงทะเบียนเรียนศิลปะที่วิทยาลัยซิมป์สัน (Simpson College) รัฐไอโอวา
นอกจากเป็นจิตรกรเขายังเป็นผู้นำในทางดนตรีด้วยเขาเป็นผู้นำนักศึกษาร้องเพลง
และเป็นหนึ่งในคณะร้องเพลงในโบสถ์ด้วย

ในขณะที่วาดภาพอยู่นั้น ก็มีเสียงเร้าใจให้เขาต้องสะดุดอยู่เสมอว่า
" เจ้ามีมือเป็นคนทำสวน มือเจ้าถูกต้องสิ่งใด จะบังเกิดชีวิต
ทำให้บังเกิดชีวิตมิใช่เลียนแบบชีวิต"

เขาจึงลาออกจากมหาวิทยาลัซิมป์สัน
และเข้าเรียนเกษตรกรรมที่วิทยลัยแห่งรัฐไอโอวา(Iowa State College )
จนได้รับปริญญาตรีทางวิทยาศาสตร์(Bachelor of Science-B.S. )เมื่อปี ค.ศ.1894
เขาเป็นนิโกรคนแรกที่เรียนสำเร็จจากวิทยาลัยนี้ และเป็นครูคนแรกของวิทยาลัยนี้ด้วย
โดยสอนพฤกษศาสตร์ระหว่างปี( ค.ศ.1894-1896 )
แต่เขาก็ทิ่งโอกาศแห่งความเจริญก้าวหน้าทีี่จะได้รับจากวิทยาลัยแห่งรัฐไอโอวา
ไปสอน เด็กนิโกร ที่ด้วยโอกาศขาดแคลนกว่า
ที่สถาบันทัสเคกี Tus Kegce Institute ) ในอัลบามา

คาร์เวอร์ร่วมมือกับนักเรียน สรา้งห้องทดลองเพื่อผลิตเครื่องใช้ที่จำเป็นในครัวเรือน
เขาทำงานในห้องทดลองวันละหลายชั่วโมง เพื่อทดลองหาหนทางเพื่อช่วยเหลือชาวนา
ที่ยากจนในภาคใต้ เขาแนะนำให้เกษตรกรใช้พืชตระกูลถั่วเพื่อปรับปรุงดิน ที่เสื่อมสภาพ
จากการปลูกฝ้ายมานานปีให้กลับอุดมสมบูรณ์

เขาได้รับปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ ๒ ปริญญาและด้รับเหรียญมากมาย มีคนเสนองาน
ที่มีรายได้สูงให้เขาหลายข้อเสนอ แต่เขายังคงสอนอยู่ที่ทัสเคกีตลอดมาเกือบ 50 ปี


เฮนรี่ ฟอร์ด กับ ดร.คาร์เวอร์ ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ทดลองความคิดใหม่ๆ
เปลี่ยนพื้นดินและบุคคลที่กำลังเสียไปให้กลับเป็นประโยชน์

ปี 1940 ดร. คาร์เวอร์ นำรายได้ของเขาที่สะสมไว้
ตั้งมูลนิธิ George Washington Carver Foundation เพื่อเป็นทุนสำหรับการวิจัย
ทางการเกษตรของชาวนิโกร

เดือนพฤศจิกายน 1942 ได้มีการเสนอร่างพระราชบัญญัติในสภาคองเกรส
มีใจความว่าขอให้ยกกระท่อมเก่าแก่ ซึ่งใกล้ปรักหักพังและถูกทอดทิ้งร่างไว้ในทุ่งนา
ที่รัฐมิสซูรีบ้านเกิดของดร. คาร์เวอร์ ให้เป็นโบราณวัตถุสำคัญชิ้นหนึ่งของชาติ
โบรารวัตถุชิ้นนี้ นอกจากเป็นเกียรติที่ระลึกถึงดร.คาร์เวอร์ เด็กนิโกรผู้ต่ำต้อย
ทว่าสามารถทำงานที่เป็นประโยชน์แก่มนุษยชาตหลายประการแล้ว
ยังเป็นเครื่องยืนยันหลักการที่ว่า มนุษยทุกๆคนมีเสรีภาพ
และมีโอกาศที่จะเจริญก้าวหน้าเท่าเทียมกัน

นอกจากงานที่ทัสเคกีแล้ว ยอร์ช วองชิงตัน คาร์เวอร์ ได้ทำงานร่วม
กับสำนักงานพืชอุตสาหกรรมแห่งสหรัฐ(U.S.Bureau of Plant Industry )
และเป็นสมาชิกราชบัณฑิตสาขาศิลปะ แห่งลอนดอน( Royal Society of Arts' London )

ไม่มีความคิดเห็น:

เทคโนโลยี

ดาวน์โหลดโปรแกรมมาใหม่ล่าสุด |

อัพโหลดไฟล์

วาไรตี้

ข่าวประจำวัน

Movie

สารบัญเว็บไทย

Thailand Map